พระเจ้าปเสนทิโกศลทราบความจริง ของ มัลลิกา ภรรยาของพันธุลเสนาบดี

นางมัลลิกาเรียกสะใภ้ทั้ง 32 คน มาให้โอวาทว่า สามีของพวกเธอไม่มีความผิด แค่ได้รับผลกรรมที่ทำไว้แต่ปางก่อน พวกเธออย่าได้เศร้าโศกไปเลย จากนั้นบุรุษที่พระเจ้าปเสนทิโกศลส่งคนมาสอดแนม ได้นำข้อความที่นางมัลลิกาสอนแก่สะใภ้ไปกราบทูลให้พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงทราบ พระองค์ทรงสลดพระราชหฤทัยที่หลงเชื่อคนผิด ทำให้พันธุละเพื่อนผู้ซื่อสัตย์พร้อมบุตรต้องเสียชีวิต

พระเจ้าปเสนทิโกศลได้ลงโทษประหารพวกอำมาตย์ที่ทูลความเท็จและทรงไปกล่าวขอโทษกับนางมัลลิกาพร้อมลูกสะใภ้ด้วยพระองค์เอง นางไม่ได้โกรธอะไรแต่นางได้ขอพระราชาอนุญาตว่าจะกลับไปยังเมืองมาตุภูมิพร้อมกับลูกสะใภ้ทั้งหมด พระองค์ก็ทรงอนุญาต และรับทีฆการายนะผู้เป็นหลานชายของพันธุละเป็นอำมาตย์ หลังจากที่นางมัลลิกาพร้อมกับสะใภ้ทั้ง 32 คนได้กลับไปยังเมืองมาตุภูมิแล้ว พวกนางไม่ได้ปรากฏตัวอีกเลย จนกระทั่งหลังจากพระพุทธเจ้าทรงดับขันธ์ปรินิพพานที่เมืองกุสินารา แคว้นมัลละ พวกมัลลกษัตริย์แห่งเมืองกุสินาราได้อัญเชิญพระพุทธสรีระไปถวายพระเพลิง ณ มกุฏพันธนเจดีย์ โดยนำขบวนเคลื่อนที่จากทิศเหนือไปยังทิศตะวันออกของเมืองกุสินารา ระหว่างทางขบวนเคลื่อนที่ นางมัลลิกาได้ขอให้ขบวนหยุดแล้วนำมหาลดาปสาธน์ เครื่องประดับของนางมาถวายแก่พระพุทธสรีระจนพระพุทธสรีระเปล่งแสงประกายอย่างน่าอัศจรรย์

ในบั้นปลายชีวิต คัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาไม่ได้ระบุว่านางเสียชีวิตเมื่อใด แต่คงดำรงขันธ์อยู่พอสมควรแก่กาลจึงอันตรธานไป